Last updated: 8 ส.ค. 2562 | 2330 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังคลอดฟื้นตัวหรือยัง? คุณแม่จะรู้ได้อย่างไร?
หากคลอดเจ้าตัวน้อยออกมาแล้ว คุณแม่ฟื้นตัวเร็ว สดชื่นแข็งแรง สุขภาพกายสุขภาพใจดีขึ้น ก็จะสามารถทุ่มเทให้กับลูกน้อยได้เต็มที่ แต่ถ้าหากคุณแม่มีปัญหาหลังคลอด แทนที่จะเอาเวลามาดูแลเจ้าตัวน้อยกลับต้องวุ่นวายกับปัญหาของตัวเอง สุขภาพจิตก็แย่...คงจะเป็นการเริ่มต้นการเป็นแม่ที่ไม่ค่อยดีนัก
แล้ว...หลังคลอด แบบไหนเรียกปกติ
1. สำคัญที่สุดคือต้องไม่มีไข้ตัวร้อน นั่นก็เพราะหากมีไข้ตัวร้อนขึ้นมาแสดงว่าอาจมีอะไรอักเสบแอบซ่อนอยู่ อาจจะเป็นแผลอักเสบ หรือมดลูกข้างในอักเสบก็ได้
2. การปวดมดลูกจะต้องปวดน้อยลงเรื่อยๆ พอลูกออกจากมดลูกไปแล้ว มดลูกที่โตค้ำลิ้นปี่ก็จะหดตัวเล็กลงเหลืออันเท่าส้มโอ แล้วมดลูกมันก็จะบีบตัวเล็กลงเรื่อยๆ บีบตัวทีก็เล็กลงนิด บีบทีก็ปวดอีกหน่อย เวลาปวดก็จะปวดบีบๆเหมือนปวดประจำเดือน... โดยอาการปวดก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆ สองสามวันก็หายปวดแล้ว แต่จะปวดมากขึ้นตอนลูกดูดนม
3. พอหลังคลอดก็จะมีน้ำคาวปลาออกมาทางช่องคลอด เป็นเลือดปนน้ำเหลืองที่ซึมออกจากรอยแผลบริเวณที่เคยมีรกเกาะอยู่ วันแรกน้ำคาวปลาจะเป็นสีแดงสดออกประมาณ หนึ่งเท่าครึ่งของรอบเดือน วันที่สองก็ยังคงแดงสดอยู่แต่จะออกน้อยลงพอๆกับประจำเดือนมาวันแรก วันที่สามยังแดงสดเหมือนเดิมแต่น้อยลงเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของรอบเดือน หลังจากนั้นก็จะออกจางลง น้อยลงเรื่อยๆ จนสิบวันก็เป็นน้ำเหลืองใสๆแล้วจะหมดสนิทใน 14 วัน หรือไม่เกิน 28 วัน
แต่ถ้าหากออกมากขึ้นเรื่อยๆก็มักเป็นการอักเสบของโพรงมดลูก หรือไม่ก็มีเศษ รกตกค้างอยู่ข้างใน..อาจต้องขูดมดลูก แต่น้ำคาวปลาก็ไม่ได้ไหลกันต่อเนื่องทั้งวัน เวลานอนมันจะขังอยู่ในมดลูก แต่พอลุกนั่งหรือยืนนี่สิมันจะไหลพรวดออกมาเป็นก้อนๆเลยล่ะ แต่ถ้ารวมๆแล้วมันออกน้อยลงเรื่อยๆก็ไม่มีปัญหา
4. การเจ็บแผลก็ต้องเจ็บน้อยลงเรื่อยๆ ห้ามเจ็บมากขึ้นเป็นเด็ดขาด แต่ช่องคลอดอยู่ใกล้กับทวารหนักที่เป็นส่วนที่สกปรกที่สุดของร่างกาย แผลฝีเย็บก็จะยิ่งใกล้ทวารหนักไปกันใหญ่ จึงต้องดูแลฝีเย็บให้ดีเป็นพิเศษ
*การดูแลตัวเองของคุณแม่หลังคลอดควรจะดูแลแต่เนิ่นๆ โดยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอและอาจหาสมุนไพรบำรุงร่างกายเสริมก็จะสามารถช่วยได้
ข้อมูลโดย:โดย นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์
(เรียบเรียงโดย www.earsaireasy.com)
28 เม.ย 2559
18 พ.ย. 2567
26 ต.ค. 2567