เคล็ดลับการกินยาจีน

เคล็ดลับสำหรับผู้กินยาจีนยาก...ถึงยากมาก!!
เชื่อว่ามีหลายท่านเมื่อมีอาการเจ็บป่วยหรืออยากบำรุงสุขภาพร่างกายและอาจจะสนใจที่จะลองยาจีนแบบต้มว่าจะได้ผลสมตามคำร่ำลือหรือไม่  แต่ก็ไม่เคยทานยาจีนแบบต้มมาก่อน เลย แถมยังได้ยินสารพัดกิตติศัพท์ของเจ้ายาจีนมามากมายในเรื่องของความสุดยอดต่างๆ ทั้งความฉุน ความเหม็น ความขม ความฝาด ...แต่อย่าลืมคำกล่าวที่ว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา”
 
...แล้วถ้าอยากจะลองจริงๆจะมีทางช่วยบรรเทาหรือให้ทานได้ง่ายๆหรือไม่?? จริงๆแล้วจากประสบการณ์ที่ผ่านมาถ้าไม่ใช่เด็กๆที่โตมากับยาจีน เช่น รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ที่คุ้นเคยกับยาจีนแบบต้ม ก็อาจจะมีการให้ทานยาจีนตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เด็กกลุ่มนี้เติบโตมาทานยาจีนกันแบบไม่ต้องกังวลมากนักเพราะชินลิ้นชินรสชาติมานานมาก แล้วถ้าผู้ที่ไม่เคยทานมาก่อนในชีวิตจะรับมือกันยังไงดี ..เคล็ดลับที่พอจะช่วยได้บ้างก็คือ

1. ในช่วงแรกๆ อาจจะหาผลไม้หรือขนม ที่ชอบทานประกบ เช่น ยาหนึ่งคำ ขนม หนึ่งคำ (แต่ก็ควรศึกษาก่อนว่า ขนมหรือผลไม้ ที่ทานประกบนั้น ล้างยาหรือห้ามทานระหว่างที่ไม่สบายหรือไม่)
2. อาจจะหาน้ำตาลกรวดหรือน้ำผึ้ง ผสมลงไปในยาที่ต้องดื่ม ให้พอมีรสหวานหรือดับกลิ่นฉุนของยา แต่ก็ไม่ควรใส่จนมากเกินไป (วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องควบคุมน้ำตาล)
3. วิธีที่ 3 เป็นวิธีที่แนะนำมากที่สุด คือ อาจจะไม่ต้องทานทีเดียวหมด ใช้วิธีค่อยจิบไปเรื่อยๆครั้งละ คำสองคำ โดยยา 1 ถ้วย(ที่ต้องทานต่อมื้อ)  ปกติทานไม่เกิน 5-8 คำ ก็หมด (โดยปกติสามารถทิ้งช่วงการทานต่อคำประมาณ3- 5 นาที ก็ได้)
4. สำหรับผู้ที่ไม่ชอบความทรมานแบบนานๆ แนะนำให้ใช้มือบีบจมูกหรือกลั้นหายใจ ทานรวดเดียวให้หมดไปเลยในครั้งเดียวและอาจจะหาน้ำเปล่าดื่มล้างปากเล็กน้อย  (แต่ต้องมั่นใจในความอึดของตัวเอง เพราะบางท่านอาจจะมีการพุ่งระหว่างการกินนได้)
5. กรณีที่เป็นเด็กๆและอยากให้ทานยาจีนบ้าง อาจใช้วิธีเพิ่มหล่อฮั้งก้วยลงไปในยาอันนั้น(ซึ่งจะให้ความหวานธรรมชาติ เด็กจะทานง่าย) และเอายาใส่ลงไปในขวดหรือภาชนะสวยๆหรือลายการ์ตูนที่เด็กๆชอบ ก็และชมหรือตบมือเวลาทาน จะช่วยให้ทานได้ง่ายขึ้น(โดย เป็นวิธีที่ซินแส ของร้านขายยาเอี๊ยะแซ ใช้ประจำ)

ซึ่งช่วงแรกๆอาจจะปฏิบัติยากหรือต้องฝืนตัวเองพอสมควร ในการทาน แต่เมื่อทานไปสัก 2-3 รอบ อาการต่างๆ ก็จะลดลง และสามารถทานยาจีนได้ปกติ โดยไม่ต้องมีตัวช่วยใดๆ แต่ในปัจจุบันยาจีนบางชนิดก็มีการปปรับเปลี่ยนพัฒนามาเป็นในรูปแบบของแคปซูล เพื่อให้ทานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาต้ม ไม่ฉุน เช่น แซฮัวทึง สำหรับคุณแม่หลังคลอด แต่ก็ควรดูความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ที่ซื้อด้วย ทั้งในเรื่อง ทะเบียนยา ความน่าเชื่อถือของร้านค้า