Last updated: 18 เม.ย 2561 | 9027 จำนวนผู้เข้าชม |
ร้านขายยาจีนนั้นได้เข้ามาในเมืองไทยน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ปี แน่ๆ เพราะแค่ ร้านขายยาเอี๊ยะแซนั้นก็ร่วมร้อย ปีเข้าไปแล้ว และสิ่งของหรืออุปกรณ์ในร้านนั้น หลายอย่างในปัจจุบันแทบจะหาไม่ได้หรือหาชมได้ยากมากเพราะวิวัฒนาการได้เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการจัดการ แต่ของบางอย่างที่หายไปตามกาลเวลานั้นกลายเป็นของที่หลายท่านอาจจะลืมเลือนไปแล้วหรือคนรุ่นใหม่ๆอาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำเลยขอ รวมของคลาสสิค ที่ร้านขายยาจีน(โบราณ) ต้องมีหรือเคยมีสิ่งของต่างๆเหล่านี้ดู ว่ามีอะไรบ้าง
ตาชั่งยาโบราณ
ตาชั่งยาโบราณ:เรียกได้เป็นเครื่องหมายการันตีของร้านขายยาจีนสมัยโบราณต้องมี โดยจะมีลูกตุ้มเหล็กเป็นตัวเทียบน้ำหนักของยา โดยปกติแล้ว น้ำหนักของยานั้นคนจีนจะมีอัตราส่วนเป็นสลึงหรือตำลึงแล้วแต่ปริมาณ (โดย 1ตำลึงจะมีน้ำหนักประมาณเกือบ 38 กรัม) และลูกตุ้ม(ที่ผู้เขียนพอจะจำได้) จะมีน้ำหนักตั้งแต่ 1 กรัม จนถึง 500 กรัม ทั้งนี้ในปัจจุบันโดยมากจะใช้เครื่องชั่งดิจิตอลในการชั่งแทนเพื่อความรวดเร็ว แต่ก็จะมีบางร้านอาจจะใช้ตาชั่งโบราณอยู่บ้าง
ครกบดยา
ครกบดยา: เป็นอีกสิ่งของที่เป็นเครื่องหมายการันตีว่าว่าร้านยาจีนโบราณต้องมี แต่ครกที่ว่านี้ไม่ได้เป็นครกหินทั่วไป แต่จะเป็นครกที่ทำจากเหล็กพิเศษ เพราะเป็นครกที่ทำจากทองแดงพิเศษ เพราะจะยาจีนบางตัวต้องมีการทุบให้ร้าวหรือแตกในการต้ม ซึ่งสมุนไพรบางตัวมีความแข็งมาก ครกทั่วไปอาจไม่สามารถทุบหรือบดได้ ซึ่งตัวสากทุบจะต้องมีแผ่นหนังกางล้อมบังตัวครกด้วยเนื่องจากกันตัวยากระเด็นเวลาทุบ ...และซินแสเล่าว่าในสมัยก่อนร้านยาที่เปิดไม่ห่างกันมาก มักจะมีการทุบครกให้ดังๆแข่งกัน ประมาณว่าร้านยาที่นี่ลูกค้าเยอะ ต้องทุบยาให้มีเสียงดังๆโชว์ ซึ่งเสียงจะดังคล้ายระฆังแต่เสียงแน่นกว่ามาก ในปัจจุบันทางร้านก็ยังครกตัวนี้อยู่ โดยตัวสากจะมีแผ่นหนังกางออกมาเพื่อป้องกันเวลาทุบแล้วตัวยาจะกระเด็นออกมา
ลูกคิด
ลูกคิด : เรียกได้ว่า “ลูกคิด” ไม่จำเป็นต้องร้านยาจีนต้องมี แต่เป็นอุปกรณ์ในการคิดเงินของพ่อค้าชาวจีนในสมัยก่อนแทบทุกคน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ปราบเซียนของผู้เขียนมากเพราะทั้งอากง(คุณปู่)และพ่อ เคยพยายามสอนในการใช้ลูกคิดแต่ จนป่านนี้ยังดีดไม่เป็น...สมัยที่ยังเป็นเด็กเห็นผู้ใหญ่ใช้แล้วคล่องมากดีดกันเหมือนดีดลูกหินเลย ดีดเสร็จก็คำนวนค่ายา ได้ถูกต้อง(เพราะเคยลองเอาเครื่องคิดเลขกดตาม) ในปัจจุบันทางร้านก็ได้เปลี่ยนเป็นเครื่องคิดเลขแทนแล้ว และเจ้าลูกคิด ก็กลายเป็นของโบราณสะสมแทน
มีดหั่นยา
มีดหั่นยา: เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ เป็นอุปกรณ์ต้องห้ามในการเข้าใกล้(ในสมัยเด็กๆ) เพราะอันตรายมาก ถ้าดูจากหน้าตา ก็น่ากลัวพอสมควร คล้ายเครื่องประหารในเรื่องเปาบุ้นจิ้น... แต่เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงของซินแส(คุณหมอ) มาก เพราะยาบางตัวไม่สามารถใช้มีดธรรมหรือกรรไกรในการตัดได้ หรือ ถ้าใช้มีดตัดได้แต่ก็จะใช้เวลานานกว่าเจ้าอุปกรณ์นี้ และยังตัดออกมาแล้วอาจจะไม่สวยด้วย ซึ่งยาบางตัวที่มาจากต้นทางอาจเป็นชิ้นใหญ่ ถ้าเรานำไปต้มทั้งชิ้นนั้น ฤทธิ์ยา อาจจะไม่กระจายออกไป หรือยาบางตัวก็ใช้เจ้ามีดหั่นยาประเภทนี้เท่านั้น เช่น กระเพาะปลา ...โดยปัจจุบันยังเป็นอุปกรณ์คู่ใจของซินแส(คุณหมอ) อยู่ และเป็นอุปกรณ์อีกอย่างที่ผู้เขียนขยาด ไม่ค่อยอยากเข้าใกล้
สัตว์แปลกๆ
สัตว์แปลกๆ : ขึ้นชื่อว่ายาจีน นอกจากพวกสมุนไพรแล้ว ก็ต้องนึกถึงพวกสัตว์แปลกๆด้วย ว่าด้วยตามตำราจะมีสัตว์บางชนิดที่สามารถนำมาเป็นยาและรักษาโรคได้ วิธีการก็แล้วแต่ตำรา บางชนิดก็ต้องนำมาบด หรือ ตากแห้ง หรืออาจจะนำสดๆมาปรุงเลยก็มี เช่น ม้าน้ำ ต้องนำมาตากแห้ง และเมื่อนำมาปรุงยา ก็จะบำรุงไต เสริมกำลัง... โดยในอดีต ซินแสแผนจีน ค่อนข้างนิยมใช้สัตว์ต่างๆกันมาก แต่ในปัจจุบันก็จะน้อยลง รวมถึงร้านขายยาเอี๊ยะแซ ในปัจจุบัน ก็ไม่มีการใช้สัตว์ในการปรุงยาแต่อย่างใด ซึ่งซินแสทางร้าน จะใช้เป็นจำพวกสมุนไพรจากพืชแทน เพราะด้วยการที่แกยึดถือการรักษาด้วยการไม่เบียดเบียนสัตว์เหล่านี้ (แต่ถ้าอยากมาดูสัตว์แปลกๆที่ใช้ในการปรุงยากก็สามารถมาชมที่ร้านได้ ทางร้านจะมีให้ชมอยู่แต่ไม่ได้จำหน่าย)
ไข่มุก
ไข่มุก :อีกสิ่งหนึ่งร้านยาจีนมักจะมีกันคือไข่มุก ตามตำราคือเมื่อบดแล้วไปปรุงยา จะช่วยเรื่องบำรุงผิว แต่ในปัจจุบันทางร้านไม่นิยมให้มารับประทานเนื่องจากถ้าทานสะสมจะมีโอกาสเกิดโรคนิ่วได้ โดยทางซินแสแกจะนำมาเป็นส่วนผสมของแป้งแทน เพื่อบำรุงผิวพรรณ ลดปัญหาเรื่องสิวได้ และ ไข่มุก ที่นำมาใช้นั้นต้องเป็นไข่มุกที่นำมาจากทะเลจีนน้ำลึก จะมีความบริสุทธิ์มากกว่ามุกชนิดอื่นๆ
ลิ้นชักยาโบราณ
ลิ้นชักโบราณใส่ยา : ถ้าใครเข้าร้านยาจีนแล้วไม่มีลิ้นชักไม้แข็งๆหนักสำหรับใส่ยา เรียกได้ว่า ร้านนั้นคงไม่ใช่ร้านยาจีนแบบ100% แน่ ...ด้วยสมุนไพรจีนที่มีเป็นพันๆชนิด แต่อาจมีการใช้กับ่อยๆประมาณ หลายร้อยชนิด การจัดเตรียมให้ลูกค้าเพื่อความรวดเร็ว จึงมีการใส่ลิ้นชักไว้ด้านหลังที่จัดยา และเมื่อมีการหยิบมาใช้ก็แค่เปิดลิ้นชักออกมาเท่านั้น โดยหลายท่านอาจมีความสงสัยว่าลิ้นชักมีมากมาย จะจดจำตำแหน่งยาแต่ละชนิดไหวได้อย่างไร โดยมากทางซินแส(คุณหมอ) ทางร้านจะจำได้หมด เพราะความชำนาญกว่า 60 ปี แต่ถ้าผู้ช่วยในการจัดยา ที่ลิ้นชักก็จะมีติดชื่อยาต่างๆบอกอยู่ ทำให้ค้นหาได้ไม่ยาก
กระป๋องใส่ยาโบราณ
กระป๋องใส่ยาโบราณ : ในสมัยโบราณร้านยาจีนโบราณ บางร้านอาจจะไม่มีลิ้นชักใส่ยา หรือ ใส่ยาไม่พอ ก็จะมีกระป๋องใส่ยาต่างหากเพิ่มขึ้น โดยมากจะมีทั้งขนาดเล็กหรือใหญ่แล้วแต่ประเภทหรือชนิดของยา โดยยาตัวไหนใช้มากก็ใส่ใบใหญ่หน่อย และยาจำนวนมากสำหรับในการเป็นสต๊อกนั้น โดยมากจะเก็บไว้ในถังปี๊บ และเรียงเป็นชั้นๆเมื่อยาในกระป๋องใกล้หมด ก็จะต้องเอาจากที่เก็บในปี๊บมาเติม
กระดาษห่อยา
กระดาษห่อยา : แน่นอนโดยส่วนมากยาจีนเวลาจัดเป็นเทียบๆ ในสมัยก่อนจะจัดแล้วก็ห่อยาด้วยกระดาษ และที่กระดาษห่อส่วนมากก็จะมีตราปั๊มชื่อร้านของแต่ละร้าน โดยในปัจจุบันส่วนมากที่ร้านก็ยังห่อยาด้วยกระดาษอยู่แต่บางประเภทก็อาจปรับมาใส่ห่อพลาสติกหรือวัสดุอื่นๆตามความเหมาะสม
รูปสิ่งศักสิทธิ์ที่เคารพพร้อมข้อความต่างๆ
รูปสิ่งศักสิทธิ์ที่เคารพพร้อมข้อความต่างๆ: โดยทั่วไปร้านขายของชาวจีนก็มักจะมี รูปปั้นหรือป้ายรูปสิ่งศักสิทธิ์ที่เคารพอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องร้านขายยาก็ได้ แต่ร้านขายยาบางร้านสมัยก่อนที่มีข้อความตัวอักษรจีนอยู่นั้น นอกจากความเป็นมงคลแล้ว บางร้านจะใช้เป็นโค้ดลับ ในการเขียนต้นทุนราคายาบนสินค้าบางตัวเพื่อให้ทราบต้นทุนสินค้านั้นๆ เวลามีลูกค้ามาซื้อและต่อราคา จะได้ทราบว่าสามารถลดราคาได้อีกหรือไม่
กาชงชาพร้อมถ้วยจิบ
กาชงชาพร้อมถ้วยจิบ :อีกหนึ่งสิ่งที่อาจไม่จำเป็นต้องร้านขายยาจีนเท่านั้นที่มีแต่บ้านของชาวจีนเกือบทุกบ้านก็ต้องมี คือ กาชงชา พร้อมถ้วยจิบขนาดเล็ก ซึ่งโดยทั่วไปก็เอาไว้รับแขกเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวกับการรักษาเท่าไร แต่ด้วยความที่ซินแสรุ่นแรก มาจากเมืองจีน ก็จะมีเจ้าสิ่นี้อยู่ที่ร้านตั้งแต่ผู้เขียนจำความได้ แต่ก็เคยคิดเหมือนกันว่า ถ้วยใบเล็กมาก ต้องดื่มกี่ถ้วยถึงจะแก้กระหายได้...แต่เชื่อว่าการดื่มน้ำชาร้อนๆนั้นอาจจะเกิดจากที่เมืองมีอากาศค่อนข้างหนาว จึงต้อนรับกันด้วยน้ำชาอุ่นร้อน เพื่อแก้หนาวได้ รวมถึงเป็นการรักษาสุขภาพไปในตัวด้วย
การแมะ(จับชีพจร)
การจับชีพจร :ร้านขายยาจีนโบราณนั้น ความน่าเชื่อถือลำดับต้นๆ ที่คนให้ความสนใจมากที่สุดคือการแมะ หรือจับชีพจร โดยซินแส(คุณหมอ) การจับชีพจรนั้นถือว่าเป็นศาสตร์ที่มหัศจรรย์มาก เพราะแค่การเอามือจับชีพจรตรงข้อมือ ซินแสที่มีความเชี่ยวชาญจะรู้ได้ในระดับนึงเลยว่า ร่างกายเรามีข้อบกพร่องอย่างไร เป็นธาตุอะไร ต้องบำรุงอะไร ...ที่เน้นว่าระดับนึงเพราะการแมะทางซินแสแกแจ้งว่า ไม่สามารถวินิจฉัยโรคลึกๆได้ ดังนั้นถ้าเจอซินแสท่านไหนจับชีพจรแล้ววินิจฉัยโรคลึกๆได้ ก็อาจต้องทบทวนให้ดี โดยการแมะปกติคนไข้มาที่ร้านจะต้องนั่งพักประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้ชีพจรนิ่งร่างกายคงที่ ถึงจะสามารถแมะได้
กระเพาะปลา(หื่อเผีย)
กระเพาะปลา:หรือภาษาจีนจะเรียกว่า หื่อเผีย โดย ขึ้นว่าร้านยาจีน ก็ต้อมีกระเพาะปลาประจำร้าน สำหรับลูกค้าที่ต้องการทานบำรุงต่างๆ ทั้งบำรุงร่างกายทั่วไป บำรุงเลือด บำรุงหลังคลอดให้ช่วยมีน้ำม แต่การเลือกกระเพาะปลาก็ต้องเลือกจากร้านที่ไว้ใจได้ ราคายุติธรรม โดยกระเพาะปลาที่คุณภาพควรมาจากทะเลจีนน้ำลึก และอีกอย่างที่ร้านขายยาจีนจะต้องทำได้คือ การหั่น เพราะกระเพาะปลาจะมีการหั่นเพื่อนำไปปรุงนั้น ค่อนข้างยากทีเดียว การหั่นต้องมีเคล็ดลับและความชำนาญสูงพอสมควร
18 พ.ย. 2567
26 ต.ค. 2567
28 เม.ย 2559